9:00AM - 6:00PM
จันทร์-เสาร์
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับการบัญชี Ep.3 : การเริ่มทำบัญชี
การเริ่มทำบัญชี
การเริ่มทำบัญชีของธุรกิจ ให้นับวันเริ่มทำดังนี้
– ห้างหุ้นส่วน จดทะเบียน บริษัท จำกัด บริษัทมหาชนจำกัด ให้เริ่มทำบัญชีตั้งแต่ วันที่ได้รับการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลตามกฎหมาย
– นิติบุคคลต่างประเทศที่มาประกอบธุรกิจในประเทศไทย ให้เริ่มทำบัญชีตั้งแต่วันที่เริ่มต้นประกอบธุรกิจในประเทศไทย
– กิจการร่วมค้า ให้เริ่มทำบัญชีตั้งแต่วันที่เริ่มประกอบกิจการ
– บุคคลธรรมดา หรือ ห้างหุ้นส่วน ที่มิได้จดทะเบียนให้เริ่มทำบัญชีตั้งแต่วันที่เริ่มประกอบธุรกิจ
รอบระยะเวลาบัญชี
กำหนดว่าผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชีต้องปิดบัญชีครั้งแรกภายในสิบสองเดือนนับแต่วันเริ่มทำบัญชี และในปีถัดไปต้องปิดบัญชีทุกรอบสิบสองเดือนนับแต่วันปิดบัญชีรอบก่อน เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากสารวัตรใหญ่บัญชีหรือสารวัตรบัญชีให้เปลี่ยนรอบบัญชีแล้วอาจปิดบัญชีก่อนครบรอบสิบสองเดือนได้ กรณีเป็นธุรกิจร่วมค้าหรือสำนักงานใหญ่และสาขาให้ปิดบัญชีพร้อมกับสำนักงานใหญ่
การยื่นงบการเงิน
เมื่อสิ้นรอบระยะเวลาบัญชีผู้จัดทำบัญชีจะต้องจัดทำงบการเงินและยื่นงบการเงินดังกล่าวต่อสำนักงานกลางบัญชีหรือสำนักงานบัญชีประจำท้องถิ่นภายในห้าเดือนนับแต่วันปิดบัญชี สำหรับบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัดที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยให้ยื่นภายในหนึ่งเดือนนับแต่วันที่งบการเงินนั้นได้รับอนุมัติในที่ประชุมใหญ่ เว้นแต่มีเหตุจำเป็นที่ไม่สามารถยื่นได้ทัน อธิบดีกรมทะเบียนการค้าอาจพิจารณาสั่งให้ขยายหรือเลื่อนกำหนดเวลาออกไปอีกตามความจำเป็นแก่กรณีได้
การส่งมอบเอกสาร
ผู้จัดทำบัญชีต้องส่งมอบเอกสารที่ต้องใช้ประกอบการลงบัญชีให้แก่ผู้ทำบัญชีให้ถูกต้องครบถ้วน เพื่อให้บัญชีที่จัดทำขึ้นสามารถแสดงผลการดำเนินงาน ฐานะทางการเงินหรือการเปลี่ยนแปลงฐานะการเงินที่เป็นอยู่ตามความจริงและถูกต้องตามมาตรฐานการบัญชี
การเก็บรักษาบัญชีและเอกสารการลงบัญชี
ผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชีต้องเก็บรักษาบัญชีและเอกสารที่ต้องใช้ประกอบการลงบัญชีไว้ ณ สถานที่ทำการหรือสถานที่ที่ใช้เป็นที่ทำการผลิตหรือเก็บสินค้าเป็นประจำ หรือสถานที่ที่ใช้เป็นที่ทำงานเป็นประจำ เว้นแต่ผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชีจะได้รับอนุญาตจากสารวัตรใหญ่บัญชีหรือสารวัตรบัญชี ให้เก็บรักษาบัญชีและเอกสารที่ต้องใช้ประกอบการลงบัญชีไว้ ณ สถานที่อื่นได้ ในการเก็บรักษาตามมาตรา 14 ต้องเก็บไว้ไม่น้อยกว่าห้าปีนับแต่วันปิดบัญชีหรือจนกว่าจะมีการส่งมอบบัญชีจะเก็บไว้เกิน 5 ปีได้แต่ต้องไม่เกิน 7 ปี
กรณีบัญชีหรือเอกสารสูญหายหรือเสียหาย
ให้ผู้มีหน้าที่ทำบัญชีแจ้งต่อสารวัตรใหญ่บัญชีหรือสารวัตรบัญชีตามหลักเกณฑ์และ วิธีการที่อธิบดีกรมทะเบียนการค้ากำหนดภายใน 15 วันนับแต่วันที่ทราบหรือควรทราบการสูญหายหรือเสียหายนั้น
การเลิกประกอบธุรกิจ
ผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชีจะต้องจัดทำบัญชีและชำระบัญชีให้เสร็จสิ้นภายใน 90 วัน ในการเลิกประกอบธุรกิจโดยมิได้มีการชำระบัญชีให้ส่งมอบบัญชีและเอกสารที่ประกอบลงบัญชีให้แก่สารวัตรใหญ่บัญชีหรือสารวัตรบัญชี ภายใน 90 วันนับแต่วันเลิกประกอบธุรกิจ จะขอให้สารวัตรใหญ่บัญชีขยายเวลาส่งมอบให้ก็ได้แต่ระยะเวลาที่ขยายเมื่อรวมกันแล้วต้องไม่เกิน 180 วันนับจากวันเลิกประกอบธุรกิจ
>>> พระราชบัญญัติวิชาชีพการบัญชี พ.ศ. 2547 <<<
พระราชบัญญัติวิชาชีพการบัญชี พ.ศ. 2547 เป็นกฎหมายที่ประกาศใช้ทดแทนพระราชบัญญัติผู้สอบบัญชี พ.ศ. 2505 มีทั้งหมด 78 มาตรา จัดแบ่งเป็น 9 หมวดและบทเฉพาะกาล สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้ (กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์, 2547)
1. ความหมายของวิชาชีพบัญชี
2. สภาวิชาชีพบัญชี
3. โครงสร้างองค์กรตาม พ.ร.บ. 2547
4. สมาชิกสภาวิชาชีพบัญชี
5. มาตรฐานการบัญชี
6. วิชาชีพบัญชีควบคุม
7. จรรยาบรรณของผู้ประกอบวิชาชีพบัญชี
8. การกำกับดูแลโดยภาครัฐ
9. นิติบุคคลที่ประกอบกิจการให้บริการด้านวิชาชีพควบคุม
10. บทกำหนดโทษ
1. ความหมายของวิชาชีพบัญชี
2. สภาวิชาชีพบัญชี
3. โครงสร้างองค์กรตาม พ.ร.บ. 2547
4. สมาชิกสภาวิชาชีพบัญชี
5. มาตรฐานการบัญชี
6. วิชาชีพบัญชีควบคุม
7. จรรยาบรรณของผู้ประกอบวิชาชีพบัญชี
8. การกำกับดูแลโดยภาครัฐ
9. นิติบุคคลที่ประกอบกิจการให้บริการด้านวิชาชีพควบคุม
10. บทกำหนดโทษ
Next EP
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับการบัญชี : กรอบแนวคิดสำหรับรายงานทางการเงินและผู้ใช้งบการเงิน Ep.4
Ep.4 ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ รายงานทางการเงินและผู้ใช้งบการเงิน
ปรึกษาฟรี
ธัญพล การบัญชี
รับทำบัญชีรายเดือน รายปี รับจดทะเบียน บจก. หจก. บุคคลธรรมดา, ปรึกษาภาษี, ปิดงบการเงิน, รับวางระบบบัญชี, วางแผนภาษี, รับทำบัญชีร้านค้าออนไลน์ สอบถามโทร : 081-989-5689
-
Previous Post
ประโยชน์ของการบัญชี มีอะไรบ้าง ?
-
Next Post
กรอบแนวคิดสำหรับรายงานทางการเงิน
