ธัญพล การบัญชี รับทำบัญชี รายเดือน รายปี รับจดทะเบียน บจก. หจก. บุคคลธรรมดา

9:00AM - 6:00PM

จันทร์-เสาร์

ปรึกษาฟรี

081-195-6915

10 ซ.รัตนาธิเบศร์ 28 แยก 22

ต. บางกระสอ อ. เมือง จ. นนทบุรี

  • หน้าหลัก
  • เกี่ยวกับเรา
  • บริการของเรา
    • รับทำบัญชี ทุกประเภท
    • ทำบัญชี ธุรกิจให้บริการ
    • ทำบัญชี ร้านขายสินค้าออนไลน์
    • ทำบัญชี ธุรกิจการท่องเที่ยว
    • ทำบัญชี ธุรกิจร้านอาหาร
    • ทำบัญชี ธุรกิจรับผลิตสินค้า
    • ทำบัญชี ธุรกิจรับเหมา
  • บทความบัญชี
  • คำถามที่พบบ่อย
  • ติดต่อเรา
  • สอบถามราคา
ธัญพล การบัญชี รับทำบัญชี รายเดือน รายปี รับจดทะเบียน บจก. หจก. บุคคลธรรมดา
  • หน้าหลัก
  • เกี่ยวกับเรา
  • บริการของเรา
    • รับทำบัญชี ทุกประเภท
    • ทำบัญชี ธุรกิจให้บริการ
    • ทำบัญชี ร้านขายสินค้าออนไลน์
    • ทำบัญชี ธุรกิจการท่องเที่ยว
    • ทำบัญชี ธุรกิจร้านอาหาร
    • ทำบัญชี ธุรกิจรับผลิตสินค้า
    • ทำบัญชี ธุรกิจรับเหมา
  • บทความบัญชี
  • คำถามที่พบบ่อย
  • ติดต่อเรา
Thunyaphol@tpacc.co.th
081-195-6915
ธัญพล การบัญชี รับทำบัญชี รายเดือน รายปี รับจดทะเบียน บจก. หจก. บุคคลธรรมดา
  • Add Line@

เงินได้ประเภทที่ 1 คืออะไร มีอะไรบ้าง ?

เงินได้ประเภทที่ 1 คือ เงินได้พึงประเมิน ในรูปของ เงินเดือน หรือค่าตอบแทนจากการทำงานประจำ ที่ทำให้ผู้รับเงินมีหน้าที่ต้องเสีย ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ในวงการภาษีบางครั้งก็เรียกว่า เงินได้ 40(1)

การหักค่าใช้จ่าย

เงินได้ประเภทที่ 1 นี้จะหัก ค่าใช้จ่าย ได้วิธีเดียว คือ หักแบบเหมา 50% แต่สูงสุดไม่เกิน ฿100,0002

แต่ถ้ามีทั้งเงินได้ประเภทที่ 1 และ เงินได้ประเภทที่ 2 (เช่น ค่านายหน้า ค่าจ้างทั่วไป) ด้วย จะหักค่าใช้จ่ายได้แบบเหมาได้เพียงวิธีเดียว โดยหักค่าใช้จ่ายได้ 50% ของเงินได้ทั้ง 2 ประเภทรวมกัน แต่จะหักค่าใช้จ่ายได้สูงสุดไม่เกิน ฿100,000

(เงินได้ประเภทที่ 1 + เงินได้ประเภทที่ 2) × 50% = ค่าใช้จ่าย แต่ไม่เกิน ฿100,000

ดังนั้น วิธีคิดง่ายๆ คือ ทันทีที่เรามีเงินได้ประเภทที่ 1 และ เงินได้ประเภทที่ 2 รวมกันเกิน ฿200,000 คุณจะหักค่าใช้จ่ายได้สูงสุดแค่ ฿100,000 เท่านั้น

ตัวอย่าง

ถ้าคุณมีเงินได้จากเงินเดือนตลอดท้ังปี ฿360,000 เมื่อกฎหมายอนุญาตให้คุณหักค่าใช้จ่ายแบบเหมา 50% ได้เพียงทางเดียวเท่าน้ัน คุณจึงน่าจะหักค่าใช้จ่ายสำหรับเงินเดือนของคุณได้

฿360,000 × 50% = ฿180,000

แต่เนื่องจากกฎหมายกำหนดเพดานให้หักค่าใช้จ่ายสำหรับเงินเดือนได้สูงสุดเพียง ฿100,000 ดังน้ัน เราจึงหักค่าใช้จ่ายสำหรับเงินเดือนได้

฿180,000 ฿100,000 เท่าน้ัน

อะไรเป็นเงินได้ประเภทที่ 1 ได้บ้าง ?

โดยทั่วไป เงินได้ประเภทที่ 1 จะครอบคลุมถึงรายได้ในรูปของค่าตอบแทนจากการเป็นลูกจ้างที่ทำงานประจำ เช่น

  • เงินเดือน, ค่าจ้าง, เบี้ยเลี้ยง, โบนัส, เบี้ยหวัด, บำนาญ
  • เงิน OT หรือค่าทำงานในวันหยุด
  • นายจ้างหาที่อยู่ให้โดยไม่คิดค่าเช่า หรือออกเงินค่าเช่าบ้านให้ (ในกรณีที่นายจ้างของคุณไม่ใช่หน่วยงานราชการหรือรัฐวิสาหกิจ) ซึ่งเบื้องต้นจะคิดเป็นมูลค่า 20% ของเงินเดือนตลอดทั้งปี
  • นายจ้างเคลียร์ภาระหนี้สินให้คุณ
  • เบี้ยขยันจากการไม่ขาดงาน ไม่มาสาย ไม่ลากิจ ไม่ลาป่วยตลอดปี
  • การจัดอาหารให้พนักงานระหว่างเวลาทำงาน
  • จัดเที่ยวให้พนักงานมีโอกาสพักผ่อ
  • สวัสดิการเบิกค่าเล่าเรียนของบุตรหลานพนักงาน
  • เบี้ยประกันชีวิตที่นายจ้างจ่ายให้แทนลูกจ้าง
  • ค่านายหน้าที่นายจ้างจ่ายให้คุณนอกเหนือจากเงินเดือนที่ได้รับอยู่แล้ว
  • เงินค่าล่วงเวลาจากการเข้าเวรหรือค่าตอบแทนพิเศษในการรักษาคนไข้ในโรงพยาบาลที่คุณสังกัดอยู่
  • เปิดคลินิกพิเศษในโรงพยาบาลที่คุณสังกัดอยู่แต่ไม่ได้ทำนอกเวลาทำการปกติและไม่ได้รับเงินจากคนไข้เอง
  • เงิน ทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์อื่นๆที่ได้รับจากนายจ้างและเกี่ยวข้องกับการจ้างงาน
  • ค่าชดเชยและเงินก้อนสุดท้ายที่นายจ้างจ่ายให้เพราะเหตุออกจากงาน (อ่านเพิ่มได้ที่ สิ่งที่ต้องรู้เกี่ยวกับภาษีเมื่อออกจากงาน)

เงินก้อนที่ได้จากการถอนกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ

แท้จริงแล้วเงินที่จ่ายจาก กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ให้ลูกจ้าง ไม่ใช่เงินที่นายจ้างจ่ายให้เมื่อลูกจ้างออกจากงาน เนื่องจากตัวกองทุนฯ เป็นอีกบุคคลหนึ่งที่ไม่ใช่นายจ้าง ดังนั้น นายจ้างจึงไม่สามารถบังคับให้สถานะสมาชิกกองทุนฯ ของลูกจ้างรายใดสิ้นสุดลงเพื่อให้จ่ายเงินจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพทันทีได้ ลูกจ้างจึงมีสิทธิคงเงินในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพไว้ก่อนหรือขอรับเงินจากกองทุนได้เช่นกัน โดยลูกจ้างมีสิทธิได้รับเงินจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพได้ทั้งกรณีลาออกด้วยความสมัครใจ เกษียณ หมดสัญญาจ้าง หรือถูกเลิกจ้าง โดยเงินที่จะได้รับจะเป็นเงินที่นายจ้างจ่ายให้ครั้งเดียวเพราะเหตุออกจากงานด้วยเช่นกัน

แต่อย่างไรก็ดี หากลูกจ้างถอนเงินจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพออกมาเป็นเงินสด จะแบ่งได้เป็น 4 ส่วน ได้แก่

  1. เงินสะสมของคุณเองที่ถูกหักออกจากเงินเดือนก่อนหน้านี้
  2. ผลประโยชน์ที่เกิดจากเงินสะสม*
  3. เงินสมทบจากนายจ้าง*
  4. ผลประโยชน์ที่เกิดจากเงินสมทบของนายจ้าง*

หากลูกจ้างถอนกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเป็นเงินสดออกมา โดยปกติกฎหมายกำหนดให้ลูกจ้างต้องนำเงินที่ได้จาก “2. ผลประโยชน์ที่เกิดจากเงินสะสม”, “3. เงินสมทบจากนายจ้าง” และ “4. ผลประโยชน์ที่เกิดจากเงินสมทบของนายจ้าง” มาเสียภาษีด้วย โดยจะคิดเสมือนเป็นเงินเดือนและโบนัสที่ได้รับจากนายจ้าง ส่วน “1. เงินสะสมของคุณเองที่ได้รับคืนมา” ไม่ต้องนำไปเสียภาษีแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม ถ้าลูกจ้างขอคงเงินไว้ในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพไปก่อน1 หรือขอโอนย้ายเงินสะสมในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพไปเป็นกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF)  แทนก็ยังไม่นับว่ามีการถอนเงินสดออกมา ลูกจ้างจึงยังไม่มีหน้าที่ต้องเสียภาษีในส่วนนี้

กรณีเป็นสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพครบ 5 ปี แต่ขายก่อนอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ ยังต้องเสียภาษี แต่สามารถเลือกแยกคำนวณภาษีออกจากเงินได้ประเภทอื่นได้

หากเป็นสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพครบ 5 ปีแล้ว ลูกจ้างสามารถเลือกได้ว่าจะนำเงินส่วนที่เป็น “ผลประโยชน์ที่เกิดจากเงินสะสม” “เงินสมทบจากนายจ้าง” และ “ผลประโยชน์ที่เกิดจากเงินสมทบของนายจ้าง” ไปรวมคำนวณภาษีกับเงินได้ประเภทอื่นๆ หรือจะแยกคำนวณภาษีต่างหากก็ได้ โดยใช้หลักเกณฑ์เดียวกับกรณีได้เงินก้อนจากเหตุออกจากงาน

การยื่นภาษีกรณีนี้จำเป็นต้องใช้แบบฟอร์ม “ใบแนบ ภ.ง.ด. 90, 91 กรณีคำนวณเงินได้ที่นายจ้างจ่ายให้ครั้งเดียวเพราะเหตุออกจากงานเฉพาะที่เลือกเสียภาษีโดยไม่นำไปรวมคำนวณภาษีกับเงินได้อื่นๆ” ด้วย (ดูตัวอย่างด้านล่าง) ซึ่งโดยทั่วไปแล้วการแยกคำนวณภาษีสำหรับกรณีนี้มักจะช่วยให้ลูกจ้างเสียภาษีถูกกว่าการนำไปรวมคำนวณภาษีกับรายได้อื่นๆ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับรายได้และค่าลดหย่อนของแต่ละบุคคลด้วย

ตัวอย่างใบแนบ ภ.ง.ด. 90, 91 กรณีคำนวณเงินได้ที่นายจ้างจ่ายให้ครั้งเดียวเพราะเหตุออกจากงานเฉพาะที่เลือกเสียภาษีโดยไม่นำไปรวมคำนวณภาษีกับเงินได้อื่นๆ

กรณีเป็นสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพครบยังไม่ครบ 5 ปี

หากคุณเป็นสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพยังไม่ครบ 5 ปี กฎหมายกำหนดให้คุณต้องนำเงินส่วนที่เป็น “ผลประโยชน์ที่เกิดจากเงินสะสม” “เงินสมทบจากนายจ้าง” และ “ผลประโยชน์ที่เกิดจากเงินสมทบของนายจ้าง” ไปคำนวณภาษีเป็นรายได้จากงานประจำ (เงินได้ประเภทที่ 1) (และต้องคำนวณภาษีรวมกับรายได้ประเภทอื่นๆ ด้วย (ถ้ามี)) โดยไม่สามารถแยกคำนวณเหมือนกรณีเป็นสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพครบ 5 ปีได้

ยกเว้นภาษีกรณีเป็นสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพครบ 5 ปี และขายเมื่ออายุครบ 55 ปีบริบูรณ์

หากลูกจ้างเป็นสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพครบ 5 ปีแล้ว และอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ด้วย เงินที่ลูกจ้างถอนออกมาจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพจะได้รับยกเว้นไม่ต้องเสียภาษี

authour png

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook, Line@ หรือโทร 081-195-6915 ได้เลยค่ะ ธัญพล การบัญชี ยินดีให้คำปรึกษาค่ะ

ธัญพล การบัญชี

ปรึกษาฟรี

ธัญพล การบัญชี

รับทำบัญชีรายเดือน รายปี รับจดทะเบียน บจก. หจก. บุคคลธรรมดา, ปรึกษาภาษี, ปิดงบการเงิน, รับวางระบบบัญชี, วางแผนภาษี, รับทำบัญชีร้านค้าออนไลน์ สอบถามโทร : 081-195-6915

Tags
#บัญชี #ภาษี #เงินได้
Share
  • Previous Post

    9 ภาษีหัก ณ ที่จ่ายอะไรบ้างที่ต้องรู้?

  • Next Post

    เงินได้ประเภทที่ 2 คืออะไร มีอะไรบ้าง ?

Related Posts

ใบเสนอราคา จำเป็นไหมสำหรับบัญชี ? ความรู้เรื่องบัญชี
August 25, 2025

ใบเสนอราคา จำเป็นไหมสำหรับบัญชี ?

ในการดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจขายสินค้าและบริการ คำว่า “ใบเสนอราคา“ (...)

ใบแจ้งหนี้ (Invoice) คืออะไร ? ความรู้เรื่องบัญชี
August 1, 2025

ใบแจ้งหนี้ (Invoice) คืออะไร ?

ใบแจ้งหนี้ (Invoice) คือ เอกสารทางการค้าที่ผู้ขายออกให้แก่ผู้ซื้อเพื่อแสดง (...)

เปิดบริษัท ต้องทำบัญชีไหม ? ความรู้เรื่องบัญชี
June 1, 2025

เปิดบริษัท ต้องทำบัญชีไหม ?

การเริ่มต้นธุรกิจอย่างถูกต้องตามกฎหมาย จะต้องเริ่มจาก “การจดทะเบียนบริษัท” (...)

วิธีจดทะเบียนบริษัทในประเทศไทย (สำหรับผู้เริ่มต้น) ความรู้เรื่องบัญชี
May 1, 2025

วิธีจดทะเบียนบริษัทในประเทศไทย (สำหรับผู้เริ่มต้น)

การเริ่มต้นธุรกิจอย่างถูกต้องตามกฎหมาย จะต้องเริ่มจาก “การจดทะเบียนบริษัท” (...)

Recent Posts

  • ใบเสนอราคา จำเป็นไหมสำหรับบัญชี ?
  • ใบแจ้งหนี้ (Invoice) คืออะไร ?
  • เปิดบริษัท ต้องทำบัญชีไหม ?
  • วิธีจดทะเบียนบริษัทในประเทศไทย (สำหรับผู้เริ่มต้น)
  • ภาษี VAT กับ ภาษีเงินได้ (TAX) ต่างกันอย่างไร ?

Post Categories

  • ความรู้เรื่องบัญชี (48)

Tag

Account DBD TAX VAT กฎหมายภาษี การจัดหาเงินทุน การตัดสินใจทางธุรกิจ การวางแผนธุรกิจ การวิเคราะห์ผลการดำเนินงาน การหลบหลีกภาษี การหลีกเลี่ยงภาษี ขาดทุน ข้อกำหนดทางกฎหมาย ความน่าเชื่อถือทางการเงิน ความเสี่ยงภาษี ค่าเช่า งบการเงิน จดทะเบียนการค้า จดทะเบียนบริษัท จำกัด ธุรกิจ บริษัท บัญชี บัญชีต้นทุน บัญชีธุรกิจ บัญชีรายเดือน บัญชีลูกหนี้ บัญชีเจ้าหนี้ บุคคลธรรมดา ประโยชน์ของงบการเงิน ปิดงบการเงิน ภาษี ภาษีธุรกิจ ภาษีร้านค้าออนไลน์ ภาษีเงินได้ ยื่นภาษี รับทำบัญชี ร้านค้าออนไลน์ วางแผนการเงิน สรรพากร สำนักงานบัญชี หัก ณ ที่จ่าย เงินได้ ใบวางบิล ใบแจ้งหนี้

About Authour

ธัญพล การบัญชี

authourimage

สำนักงานบัญชี TPACC ยินดีให้คำปรึกษาเรื่องบัญชี รับทำบัญชีรายเดือน รับทำบัญชีรายปี ปิดงบ ยืนภาษี

Call now
image

รับทำบัญชีรายเดือน รายปี รับจดทะเบียน บจก. หจก. บุคคลธรรมดา, ปรึกษาภาษี, ปิดงบการเงิน, รับวางระบบบัญชี, วางแผนภาษี, รับทำบัญชีร้านค้าออนไลน์

image
ต้องการความช่วยเหลือ ?

โทร : 081-195-6915

สอบถาม

  • @Tpaccounting
  • @Tpacc

Add Line@

Get In Touch

สำนักงานใหญ่

10 ซ.รัตนาธิเบศร์ 28 แยก 22
ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี

ติดต่อ
โทร :
081-195-6915
อีเมล :
thunyaphol.acc@gmail.com
© ธัญพล การบัญชี All Rights Reserved. Design By  OK COM
  • หน้าหลัก
  • เกี่ยวกับเรา
  • บริการของเรา
    • รับทำบัญชี ทุกประเภท
    • ทำบัญชี ธุรกิจให้บริการ
    • ทำบัญชี ร้านขายสินค้าออนไลน์
    • ทำบัญชี ธุรกิจการท่องเที่ยว
    • ทำบัญชี ธุรกิจร้านอาหาร
    • ทำบัญชี ธุรกิจรับผลิตสินค้า
    • ทำบัญชี ธุรกิจรับเหมา
  • บทความบัญชี
  • คำถามที่พบบ่อย
  • ติดต่อเรา

Error: Contact form not found.

img

รับจดทะเบียน บจก. หจก. บุคคลธรรมดา รับทำบัญชีรายเดือน รายปี ปรึกษาภาษี ปิดงบการเงิน รับวางระบบบัญชี วางแผนภาษี รายงานสต็อคประจำเดือน/ปี รับทำบัญชีร้านค้าออนไลน์

Read More

Latest News

© 2025 TPACC. All Rights Reserved.